วันนี้ (2 ก.ย.) นายไกรสร กองกลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้นำกำลังจากหลายฝ่ายจำนวนกว่า 300 คนเข้าบรรจุกระสอบทรายและขนไปกั้นน้ำยังจุดต่างๆ ริมฝั่งแม่น้ำปาว ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง โดยได้มีการประกาศเตือนให้ประชาชนในเขตชุมชนเศรษฐกิจ และประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำปาวและแม่น้ำชีขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและเตรียมอพยพย้ายไปอยู่สถานที่ปลอดภัยแล้ว
ช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างหนักในพื้นที่และระดับน้ำในแม่น้ำชีก็หนุนสูง
ประกอบกับอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนยังคงระบาย ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และหลายๆ จุดในจังหวัด น้ำเริ่มล้นตลิ่ง ซึ่งเสี่ยงที่จะเอ่อเข้าท่วมชุมชนและเขตเศรษฐกิจของจังหวัด โดยทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยส่วนหน้าและจุดรับการสนับสนุนกำลังพล การบริจาคสิ่งของ และเป็นที่พักอาศัยของผู้ประสบภัยแล้ว ที่วัดสว่างคงคา
นายไกรสรกล่าวว่า สถานการณ์หลังได้รับผลกระทบจากพายุโพดุล จ.กาฬสินธุ์มีพายุฝนตกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยสีทนยังคงมีน้ำเกินระดับกักเก็บอีกกว่า 600,000 ลบ.ม. และยังล้นลงมาในพื้นที่ ประกอบกับระดับแม่น้ำชีที่หนุนสูงทำให้ระดับน้ำในลำน้ำปาวตลอดสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ฝนจะตกหนักอย่างต่อเนื่องช่วงวันที่ 2-4 ก.ย. และอาจส่งผลให้ลำน้ำปาวเพิ่มสูงขึ้นอีกจนล้นตลิ่ง ทางจังหวัดจึงได้ระดมกำลังทุกภาคส่วนในการบรรจุทราย เพื่อนำกระสอบทรายไปช่วยเหลือกั้นทางน้ำไหลให้เข้าสู่บ้านเรือนประชาชนประกอบกับการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยส่วนหน้าดังกล่าว
พายุโซนร้อนพัดจีน ภาคอีสานโดนฝนกระหน่ำซ้ำมีผล 2-4 กันยายน 62
น้ำท่วม – รายงาน เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันนี้ (1 ก.ย. 62) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประมาณ 300 กิโลเมตร หรือที่ ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (พายุโซนร้อน) และเคลื่อนตัวเข้าสู่เกาะไหหลำ ในวันพรุ่งนี้(วันที่ 2 ก.ย. 62) ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย
สำหรับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง ทำให้ภาคใต้และภาคตะวันออกมีฝนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนงดออกจากฝั่ง
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ดีเปรสชัน ถล่มซ้ำ โพดุล อุตุฯเตือนฝนหนักอีสาน 2-3 ก.ย.
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนวันนี้ (1 ก.ย.) ถึงพายุดีเปรสชัน (พายุระดับ 2) ที่พัดมาทางทะเลจีนใต้ตอนบน เมื่อเวลา 07.00 น. พายุมีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประมาณ 700 กิโลเมตร โดยเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 25 กม./ชม. และคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ในช่วงวันที่ 2-3 ก.ย.นี้
ดีเปรสชันลูกนี้จะส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางกรมอุตุฯจึงเตือนให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบน ควรระมัดระวังและตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง
นอกจากนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยจะยังมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคใต้และภาคตะวันออกมีฝนหรือฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง อาจมีคลื่นสูงถึง 2-3 เมตร ส่วนพื้นที่ที่ฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรระมัดระวัง และเรือเล็กทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้อย่างใกล้ชิดที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายเกชา เกราะเหล็ก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน, ชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา และชาวบ้านที่อยู่ริมคลองว่า มีน้ำเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นมาก และเป็นลักษณะเช่นนี้บ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ด้วย เนื่องจากปัญหาน้ำเสียดังกล่าวกระทบกับภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว และการทำมาหากินของพี่น้องในชุมชน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านการบริการนักท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน